แหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์ Single กับ Multi-Module ต่างกันอย่างไร? แบบไหนดีกว่า?

1. ประเภทของเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ (Laser Source)

เครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ หรือแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์นั้น เป็นหัวใจหลักของเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์เนื่องจากเป็นตัวส่งลำแสงเลเซอร์ผ่านไปยังหัวตัดเลเซอร์เพื่อใช้ในการตัดชิ้นงานต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันได้มีหลากหลายบริษัทที่ผลิตเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์มากมาย แต่บริษัทที่ได้รับความนิยมในตลาดปัจจุบัน คือ IPG ของประเทศเยอรมัน และRaycus ของประเทศจีน ซึ่งหลากๆคนคงสงสัยความแตกต่างของ IPG กับ Raycus ทางเราจะเล่าให้ฟังในบทความนี้

• IPG Laser Source

IPG Laser Source ถูกผลิตขึ้นโดยประเทศเยอรมัน ซึ่งในปัจจุบันคนในวงการเครื่องตัดเลเซอร์ หรือในอุตสาหกรรมตัดเลเซอร์จะคุ้นเคยกับแบรนด์นี้ค่อนข้างมากในเรื่องคุณภาพของลำแสงที่ทำให้ตัดเหล็กได้สวยงาม ในปัจจุบัน IPG ได้เข้ามาตีตลาดยุโรป อเมริกา รวมไปถึงเอเชียอีกด้วย ทาง IPG ได้มีการผลิตเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์หลายหลากประเภทมีทั้งแบบ ความถี่ต่ำ กลาง ไปจนถึงความถี่สูงๆ ที่สามารถใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทต่างๆ เช่น การตัดเหล็ก ตัดสแตนเลสด้วยเลเซอร์, ทางการแพทย์, การติดต่อสื่อสาร และด้านความบันเทิง (entertainment)

• Raycus Laser Source

ในช่วงหลังๆ Raycus Laser Source ของบริษัท Wuhan Raycus Fiber Laser Technologies Co., Ltd จากประเทศจีนได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคุณภาพของลำแสงค่อนข้างดี และมีราคาที่ตกว่า IPG Laser Source ทำให้คนส่วนในหันมาใช้แบรนด์นี้ค่อนช้างมากโดยเฉพาะผู้เริ่มต้นใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ ซึ่งในปัจจุบันสามารถกินส่วนแบ่งทางการตลาดได้ถึง 30% ของทั่วโลกเลยทีเดียว

ผู้เริ่มต้นที่สนใจเครื่องตัดเลเซอร์ทางเรามีบทความแนะนำ: เครื่องตัดเลเซอร์ มีกี่ประเภท? และต่างกันอย่างไร?

 

• ข้อแตกต่างระหว่าง Raycus และ IPG

                                   

ในเรื่องราคาทาง Raycus จะมีราคาที่ถูกกว่า IPG และมีคุณภาพค่อนข้างจะใกล้เคียงกันในการตัดเหล็ก สแตนเลส อลูมิเนียม รวมไปถึง เหล็กกัลวาไนซ์ ในแหล่งกำเนิดแสงที่ไม่เกิน 4000w ดังนั้น Raycus ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีพอสมควร เพราะต้นทุนต่ำกว่า และได้คุณภาพไม่แพ้ IPG อย่างไรก็ตามในแหล่งกำเนิดแสงที่มีกำลังมากกว่า 4000w นั้น IPG จะได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากมีความเสถียร และมีชั่วโมงการใช้งานที่มากกว่านั้นเอง

2. ข้อแตกต่างระหว่าง Single Module กับ Multi-Module

เครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ (Laser source) นอกจากถูกแบ่งตามบริษัทที่ผลิตแล้ว ยังมีการแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Single Module และ Multiple Module ซึ่งข้อแตกต่างระหว่าง 2 ประเภทนี้คือ multiple module จะนำ single module หลายๆอันมารวมกันในเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ ทำให้มีกำลังในการให้กำเนิดแสงเลเซอร์ที่สูงมากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปกำลังของแสงเลเซอร์ประเภท single module จะอยู่ที่ 1000 – 3000watt ดังนั้นถ้าเกิดเราต้องการซื้อเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ที่มีกำลัง 6000watt ทางบริษัทผู้ผลิตจึงต้องนำ single module มารวมกันให้ได้ 6000w เช่น นำ single module 1000w 6ชุดใส่ลงไปในเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ หรือจะใช้เพียงแค่ 3000w 2ชุดก็ได้เช่นกัน โดยสิ่งเหล่านี้ได้เรียกว่า multiple module นั้นเอง

3. ข้อดี และข้อเสียของ Single Module กับ Multi-Module

ทางห้างหุ้นส่วนจำกัด เอี่ยมเส็ง สตีล ได้ใช้เครื่องตัดเลเซอร์ในการตัดเหล็ก ตัดสแตนเลส เป็นระยะเวลานานพอสมควร ดังนั้นเราจะมาพูดถึงข้อดี และข้อเสียของ Single module กับ Multi-module

• Single module จะเหมาะกับการตัดเหล็กที่มีความหนาไม่มากนัก เช่น 1-3 มิลลิเมตร จะสามารถตัดเหล็กได้มีคุณภาพ, รวดเร็วกว่า และผิวของชิ้นงานนั้นเรียบเนียนมากกว่า Multi-module ถ้าเปรียบเทียบระหว่างเครื่องตัดเลเซอร์ 1500w ของ single module สามารถตัดเหล็ก 1 มิลลิเมตร และตัดสแตนเลสด้วยเลเซอร์ได้รวดเร็วเร็วกว่า Multi-module ถึง 20% แต่อย่างไรก็ตามถ้าความหนาเริ่มเพิ่มมากขึ้น (3 มิลลิเมตรขึ้นไป) multi-module จะสามารถตัดเหล็กได้มีประสิทธิภาพมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการตั้งค่า parameter ด้วยเช่นกัน
• ในช่วงความหนา 4 มิลลิเมตรขึ้นไป Multi-module จะตัดได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่าแบบ Single module อย่างเห็นได้ชัด ในปัจจุบันโรงงานตัดเลเซอร์เหล็ก และสแตนเลสส่วนใหญ่หันมาใช้เครื่องเลเซอร์แบบ multi-module ค่อนข้างมากเนื่องจากยิ่งกำลังวัตต์ที่สูงขึ้นมากเท่าไหร่ สามารถที่จะตัดเหล็กได้เร็วขึ้น และมีผิวงานที่สวยขึ้น
• ในเรื่องของการบำรุงรักษา Single module จะดูแลได้ง่ายกว่าแบบ Multi-module ค่อนข้างมาก เนื่องจาก Multi-module เกิดจากการนำ Single module หลายๆตัวมาประกอบรวมกัน ดังนั้น ถ้ามีส่วนใดส่วนนึงที่มีปัญหาก็จะส่งกระทบต่อ Multi-module ทั้งหมดด้วยเช่นกัน ทำให้ระยะเวลาในการบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงมากขึ้น

สรุป

เครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ (Laser Source) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ ซึ่งในปัจจุบันมีหลายบริษัทได้ผลิตเครื่อง Laser source มากขึ้น เช่น IPG, Raycus เป็นต้น Laser source ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ single module ที่เหมาะสำหรับกว่าตัดเหล็กที่ความหนาไม่มากนัก (1-3มิลลิเมตร) จะให้ประสิทธิภาพ และรวดเร็วกว่าแบบ multi-module แต่อย่างไรก็ตาม multi-module จะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในการใช้ตัดเหล็กที่มีความหนามากๆ ดังนั้นผู้ใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ควรเลือกเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง เช่น ถ้าตัดเหล็กที่ความหนาไม่มากก็ควรเลือกซื้อแบบ single module จะได้ต้นทุนที่ต่ำกว่า และไม่ต้องจ่ายเกินความจำเป็นของงานที่ต้องการ ส่วนท่านใดเน้นตัดเหล็กหนาๆ รวมไปถึง ตัดเลเซอร์สแตนเลส อลูมิเนียม ควรเลือกซื้อแบบ multi-module ที่มีกำลังวัตต์ที่สูงขึ้น