สนิม (rust) สนิมเหล็กเกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างเหล็กกับออกซิเจนและความชื้นในอากาศหรือในน้ำ โดยเหล็กจะสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับออกซิเจนกลายเป็นเหล็กออกไซด์ (Fe2O3) โดยสารละลายที่เกิดขึ้นจะดูดซับความชื้นจากอากาศหรือในน้ำกลายเป็นไฮเดรตเฟอริกออกไซด์ (Fe2O3·nH2O) ซึ่งมีลักษณะเป็นคราบสีแดงหรือน้ำตาลที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป
ปัจจัยที่เร่งให้เกิดสนิม ได้แก่
- ความชื้น : ความชื้นเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญในการเกิดสนิม ยิ่งมีความชื้นสูง สนิมก็จะยิ่งเกิดขึ้นเร็วขึ้น
- ออกซิเจน : ออกซิเจนเป็นสารตั้งต้นในการเกิดสนิม หากไม่มีออกซิเจน สนิมก็จะเกิดขึ้นไม่ได้
- อุณหภูมิ : อุณหภูมิที่สูงขึ้น ปฏิกิริยาเคมีก็จะเกิดเร็วขึ้น ทำให้สนิมเกิดขึ้นเร็วขึ้นเช่นกัน
- สารเคมี : สารเคมีบางชนิด เช่น เกลือ กรด ด่าง ก็สามารถเร่งให้เกิดสนิมได้
วิธีป้องกันสนิมสามารถทำได้โดย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความชื้นและออกซิเจน เช่น ทาสี เคลือบผิวด้วยสารกันสนิม
- เก็บรักษาไว้ในที่แห้งและเย็น
- ทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ
สนิมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยกับวัสดุที่ทำจากเหล็ก ทำให้เกิดความเสียหายและอายุการใช้งานของวัสดุลดลง จึงควรป้องกันสนิมอย่างเหมาะสม
สนิมเหล็กอันตรายหรือไม่
สนิมเหล็กโดยทั่วไปไม่อันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เพราะสนิมเหล็กเป็นสารประกอบอนินทรีย์ที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม สนิมเหล็กอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียได้
หากสนิมเหล็กสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นเป็นเวลานานๆ เชื้อโรคและแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำหรือความชื้นก็จะสามารถเกาะติดกับสนิมเหล็กได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคท้องร่วง โรคบิด เป็นต้น นอกจากนี้สนิมเหล็กยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อโครงสร้างอาคารบ้านเรือนและอุปกรณ์ต่างๆ ได้ เนื่องจากสนิมเหล็กจะกัดกร่อนวัสดุต่างๆ ทำให้วัสดุต่างๆ เสื่อมสภาพและแตกหักได้
ดังนั้น ถึงแม้ว่าสนิมเหล็กโดยทั่วไปจะไม่อันตรายต่อร่างกายมนุษย์ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสนิมเหล็กโดยตรง และควรทำความสะอาดสนิมเหล็กออกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย